การสูดหายใจเอาไอหรือฝุ่นแคดเมี่ยม (Cd) โดยที่โรงงานอุตสาหกรรมได้ใช้แคดเมี่ยม
ในการทำหม้อแบตเตอรี่อัลคาไลน์ โลหะผสมสีและพลาสติกตลอดจนใช้เป็น ยาฆ่าแมลง
การหลอมโลหะ เช่น หลอมตะกั่ว ทองแดงและสังกะสี จะมีฝุ่นไอของแคดเมี่ยมฟุ้งกระจายในรูปของไอควัน
(Cadmium Oxdde fume) เป็นอันตรายแก่คนงานในโรงงานนั้นๆ ได้ เช่นคนงานในเหมืองแร่มิตซุย
ในญี่ปุ่น เกิดแพ้พิษของแคดเมี่ยมไปกัดกร่อนทำลายกระดูกจนทนไม่ไหว ร้อยโอยเจ็บ-โอยเจ็บ
มีชื่อว่า โรคอิไต-อิไต แคดเมี่ยมเป็นโลหะอ่อนนุ่ม งอได้ เหนียวรัดได้ มีสีขาวเงินทนทานต่อกรดสูง
หลอมเหลวที่อุณหภูมิ 320.9 องศาเซลเซียส
ประโยชน์ของแคดเมี่ยม
1. ใช้ชุบโลหะด้วยไฟฟ้า เช่น ใช้ในโรงงานชุบสังกะสี
2. ใช้ผสมกับโลหะอื่นเพื่อเพิ่มความเหนียว และทนต่อการสึกหรอ
3. ใช้ทำเม็ดสี พวกพลาสติก ยางหมึกพิมพ์
4. ใช้ทำแบตเตอรี่อัลคาไลน์ ร่วมกันนิเกิล
5. ใช้ในเตาปฏิกรณ์ปรมาณู เป็นตัวการควบคุมการแตกตัวของนิวเคลียส
6. ใช้ในการถ่ายรูป
7. ใช้ในกิจการน้ำมันในรูปไดเอทิล แคดเมี่ยม (Diethyl Cadmium) ในขบวนการผลิตเตตร้า
เอทิลเลด (Tetraethyl Lead) ซึ่งเป็นตัวป้องกันการชักกระตุก (Antiknock)ในเครื่องยนต์
มาตรฐานของแคดเมี่ยม
1. ชนิดเฉียบพลัน เกิดจากการหายใจเอาไอหรือฝุ่นของฝุ่นของแคดเมี่ยมที่มีอยู่ในบรรยากาศ
เป็นจำนวนมากเข้าไป อาการที่พบคือ เกิดความระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ
ทำให้เกิดอาการไอ เจ็บหน้าอก เหงื่อออกและสั่น แคดเมี่ยมเมื่อเข้าสู่ร่างกายโดยการกิน
ก็จะเกิดอาการคลื่นเหียนอาเจียน และท้องร่วง มีอาการเหมือนอาหารเป็นพิษ ดังนั้นจึงห้ามใช้แคดเมี่ยมฉาบกระป๋องอาหาร
2. ชนิดเรื้อรัง เกิดจากการได้รับแคดเมี่ยมไม่ว่าจะเป็นการหายใจ
กินหรือดูดซึมเข้าทางผิวหนังอยู่เป็นประจำ เมื่อแคดเมี่ยมเข้าสู่ระบบการไหลเวียนของโลหิตแล้วก็จะไปทำลายปอด
ทำให้ปอดบวมทำลายตับและไต แคดเมี่ยมส่วนหนึ่งจะไปเคลือบอยู่ตามเหงือกและคอฟัน
ซึ่งล้างไม่ออก อาการเรื้อรังของโรคแพ้พิษสารแคดเมี่ยม มีอาการเจ็บหัวเข่า
และปวดตามกระดูกทั่วร่างกาย มีปัสสาวะสีขาวข้นเนื่องจากไตถูกทำลาย ปริมาณปัสสาวะและเลือดผู้ป่วยเปลี่ยนไป
กระดูกจะเปราะมากเพราะว่าแคดเมี่ยมในกระดูกถูกทำลาย
ที่มา : รวบรวมจาก ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ดร.วิจิตร บุณยะโหตระ ,ชีวิตและสิ่งแวดล้อม