Aminolevulinic Acid (ALA)
จากการวิจัยของ ดร.นภาวร
รณ นพ
รัตนราภรณ์ แห่งภาค
วิชา
จุลชีววิทยา คณะ
วิทยา
ศาสตร์ มหาวิทยาลัย
เกษตร
ศาสตร์ พบว่าโดยปกติ
สาร ALA นี้
เป็น
สาร
ธรรม
ชาติ
ที่
มี
อยู่
ใน
พืช
และ
สิ่ง
มี
ชีวิต
อื่น ๆ หลาย
ชนิด
อยู่
แล้ว และ
จาก
การ
ที่ดร
.นภาวรรณ ได้
ศึกษา
คลุก
คลี
อยู่กับงาน
วิจัย
ทางด้าน
จุลินทรีย์
มาก
กว่า 15 ปี โดย
เฉพาะ
แบคทีเรีย
สังเคราะห์
แสง จึง
ทำ
ให้
ทราบ
ว่า
แบคทีเรีย
สังเคราะห์
แสง ซึ่ง
อยู่
ใน
วงศ์ Rhodospirillaceae จะ
มี
การ
สร้าง
สาร ALA เพื่อ
นำ
ไป
ใช้
ใน
การ
สังเคราะห์
สาร
สำคัญ
ที่
จะ
ใช้
ใน
การ
ดำรง
ชีวิต
ของ
มัน เช่น สังเคราะห์
คลอโรฟีลล์
เพื่อ
ใช้
ใน
การ
สังเคราะห์
แสง ดัง
นั้น ดร.นภาวร
รณ จึง
ได้
ทด
ลอง
เลี้ยง
แบคทีเรีย
สังเคราะห์
แสง ซึ่ง
แยก
มา
จาก
แหล่ง
น้ำ
จืด
ใน
ประเทศ ทั้ง
หมด 68 สาย
พันธุ์ และ
พบ
ว่า
แบคทีเรีย Rhodobacter sphaeroides เป็น
สาย
พันธุ์
ที่
ผลิต
สาร ALA ได้
สูง
ที่
สุด
คือ 1023 ไมโครโมล
ต่อ
ลิตร
ต่อ
ชั่ว
โมง
เมื่อ
นำ
สาร ALA ที่
ผลิต
ได้
มา
ทด
ลอง
ฉีด
พ่น
ใน
พืช พบ
ว่า สามารถ
ทำลาย
วัช
พืช
ใบ
กว้าง
ได้
ดี
กว่า
ใบ
แคบ เช่น ผัก
ยาง ผัก
เสี้ยน จะ
เกิด
อาการ
เหี่ยว
แห้ง
หลัง
จาก
ถูก
แสง
แดด 24 ชั่ว
โมง และ
ตาย
ใน
เวลา
ต่อ
มา ส่วน
ผัก
โขม
และ
ผัก
โขม
หนาม ซึ่ง
เป็น
วัช
พืช
ใบ
กว้าง
เหมือน
กัน แต่
มี
ใบ
หนา
กว่า
ก็
มี
อาการ
แห้ง
ตาย
เช่น
กัน แต่
มี
บาง
ส่วน
ที่
ฟื้น
คืน
ได้
ใหม่ แต่
ถ้า
เป็น
วัช
พืช ใบ
แคบ เช่น หญ้า
ข้าว
นก จะ
มี
อาการ
แห้ง
ที่
ปลาย
ใบ
เพียง
เล็ก
น้อย
เท่า
นั้น
แต่
จะ
ฟื้น
คืน
ได้
ใน ที่
สุด
สาร
กำจัด
วัช
พืช ALA นี้
สามารถ
ทำลาย
วัช
พืช
ใบ
กว้าง
ได้
อย่าง
เฉียบ
พลัน รุน
แรง และ
เฉพาะ
เจาะ
จง โดย
เมื่อ
วัช
พืช
ได้
รับ
สาร ALA มัน
ก็
จะ
ถูก
ชัก
นำ
ให้
ผลิต
สาร
ชนิด
หนึ่ง
ขึ้น